ภาพเขียน ของ ฌอร์ฌ เดอ ลา ตูร์

“คนเล่น Hurdy-gurdy”, น็องต์, ประเทศฝรั่งเศส

งานสมัยต้นของฌอร์ฌ เดอ ลา ตูร์แสดงอิทธิพลของคาราวัจโจซึ่งอาจจะได้รับมาจากจิตรกรเนเธอร์แลนด์ร่วมสมัย ภาพ “โกงไพ่” (Le Tricheur) และขอทานทะเลาะกันมาจากผู้ที่เรียกว่า คาราวัจจิสติ และฌัก แบล็องฌ์ (Jacques Bellange) จิตรกรชาวลอแรนด้วยกัน รูปเขียนกลุ่มนี้เชื่อกันว่าเขึยนเมื่อเดอ ลา ตูร์เพิ่งเริ่มเขียนภาพ

เดอ ลา ตูร์มีชื่อเสียงในการเขียนแสงกลางคืนซี่งคาราวัจจิสตินำมาจากคาราวัจโจและเดอ ลา ตูร์วิวัฒนาการขึ้นอีกมากและนำมาใช้ในการเขียนภาพชีวิตร่วมสมัยและศิลปะศาสนา เดอ ลา ตูร์เริ่มเขียนวิธีนี้ราวต้นคริสต์ทศวรรษ 1640 โดยใช้ความตัดกันอย่างชัดเจนของแสงและเงา ที่เรียกว่า “ค่าต่างแสง” (chiaroscuro), องค์ประกอบที่เป็นเรขาคณิต, และการวางรูปแบบที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน งานของเดอ ลา ตูร์ค่อยวิวัฒนาการมามีลักษณะนิ่งและง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นการนำคุณค่าของคาราวัจโจมาใช้ซึ่งแตกต่างจากคุณค่าที่ใช้โดยจูเซเป เด รีเบรา (Jusepe de Ribera) และผู้ใช้ “ค่าต่างแสงหนัก” (Tenebrism) อึกกลุ่มหนึ่ง[2]

เดอ ลา ตูร์มักจะเขียนภาพต่อเนื่องของหัวข้อเดียวกัน (คล้ายวิธีที่โกลด มอแนใช้) และมีงานเขียนไม่มาก เอเตียนลูกชายผู้เป็นลูกศิษย์และยากที่จะบอกความแตกต่างของงานเขียนของจิตรกรสองคนนี้ เช่น ภาพ “การศึกษาของพระแม่มารี” ที่พิพิธภัณฑ์ฟริค นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หลังจากเดอ ลา ตูร์เสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1652 งานของเดอ ลา ตูร์ก็ลืมกันไปแต่มาพบอีกครั้งโดยเฮอร์มัน ฟอส นักวิชาการชาวเยอรมันเมื่อปี ค.ศ. 1915 และเมื่อมีการแสดงภาพของเดอ ลา ตูร์ที่ปารีสก็ยิ่งทำให้มีผู้สนใจมากขึ้น ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก็มีการพบภาพเขียนอื่น ๆ ของเดอ ลา ตูร์ นอกจากนั้นก็มีการลอกเลียนโดยมืออาชีพอีกมากตามความต้องการของสาธารณะ ลักษณะบางแง่ของเดอ ลา ตูร์ยังเป็นที่ถกเถียงกันในบรรดานักประวัติศาสตร์ศิลปะ